บล็อก
2025/04/21
จะลดจำนวนการติดต่อสอบถามได้อย่างไร? การเตรียมการที่จำเป็น, จุดสำคัญในการปรับปรุงธุรกิจ และกรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ
- FAQ
- Operational Efficiency
- Voicebots
- การทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- คำถามที่พบบ่อย

ในศูนย์บริการลูกค้า เจ้าหน้าที่และพนักงานต่างยุ่งอยู่กับการตอบคำถามจำนวนมากในแต่ละวัน และภาระงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพื่อลดจำนวนข้อซักถามและดำเนินการตอบกลับที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จำเป็นต้องระบุแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมกับบริษัทและดำเนินการปรับปรุงอย่างเป็นระบบ
ในบทความนี้ เราจะแนะนำการเตรียมการที่จำเป็นเพื่อลดจำนวนข้อซักถาม จุดสำคัญสำหรับการปรับปรุงธุรกิจ และเรื่องราวความสำเร็จ
- เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของจำนวนการติดต่อสอบถามและการเตรียมการเพื่อลดจำนวนลง
- วิธีลดจำนวนข้อซักถามหรือการติดต่อสอบถาม
- ประโยชน์ของการลดการสอบถาม
- 【กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ】ประสบความสำเร็จในการประหยัดแรงงานพนักงานประมาณ 158,000 ชั่วโมงด้วยการทำงานของแชทบอทร่วมกับพนักงาน | บริษัท ไดอิจิ ประกันชีวิต จำกัด
- ลดปริมาณการติดต่อสอบถามที่ศูนย์บริการลูกค้าด้วย FastSeries
- สรุป
เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของจำนวนการติดต่อสอบถามและการเตรียมการเพื่อลดจำนวนลง
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนการติดต่อสอบถามเพิ่มขึ้นเนื่องจากการกระจายตัวและความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์และบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์และบริการ จึงมีแนวโน้มที่ข้อซักถามเกี่ยวกับเนื้อหาเฉพาะทางจะเพิ่มขึ้น
เพื่อลดจำนวนการติดต่อสอบถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจสาเหตุของการเพิ่มขึ้นและดำเนินการแก้ไขโดยไม่กระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า แทนที่จะลดจำนวนกรณีลงอย่างง่ายๆ จำเป็นต้องสร้างระบบที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างราบรื่น
ด้วยการดำเนินการเตรียมการอย่างเป็นระบบล่วงหน้าดังต่อไปนี้ จะสามารถลดจำนวนข้อซักถามและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานได้
<การเตรียมการที่จำเป็นเพื่อลดจำนวนการติดต่อสอบถาม>
1 การระบุวัตถุประสงค์ของการลดจำนวนการติดต่อสอบถามให้ชัดเจน
2 การวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาข้อซักถาม
3 การนำระบบเพื่อช่วยลดปริมาณการติดต่อสอบถามมาใช้จ่าย
1. การระบุวัตถุประสงค์ของการลดจำนวนการติดต่อสอบถามให้ชัดเจน
ก่อนอื่น สิ่งสำคัญคือต้องระบุวัตถุประสงค์ให้ชัดเจนว่าทำไมจึงจำเป็นต้องลดจำนวนข้อซักถามหรือการติดต่อสอบถาม ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายของคุณคือการลดภาระงานของเจ้าหน้าที่ ก็ควรประมาณการว่าต้องลดจำนวนข้อซักถามลงกี่เปอร์เซ็นต์เพื่อให้ปริมาณงานอยู่ในระดับที่เหมาะสม
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาว่าคุณต้องการให้เกิดผลลัพธ์แบบใดจากการลดจำนวนการติดต่อสอบถาม สำหรับข้อซักถามที่มีความเฉพาะทางสูง การให้เจ้าหน้าที่เป็นผู้จัดการอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า สิ่งสำคัญคือต้องหาสมดุลที่เหมาะสม เช่น การตอบคำถามทั่วไปและข้อซักถามที่มีเนื้อหาพื้นฐานด้วยการตอบกลับอัตโนมัติ และเปลี่ยนไปเป็นการสนับสนุนโดยเจ้าหน้าที่เมื่อจำเป็น ด้วยวิธีนี้ การระบุวัตถุประสงค์ของการลดจำนวนข้อซักถามให้ชัดเจนจะช่วยให้กำหนดทิศทางของมาตรการที่ต้องมุ่งเน้นได้ง่ายขึ้น
2. การวิเคราะห์ข้อมูลข้อการติดต่อสอบถาม
สิ่งสำคัญลำดับถัดมาคือต้องวิเคราะห์เนื้อหาของข้อซักถามในอดีตและทำความเข้าใจว่า "คำถามประเภทใดที่พบบ่อย" และ "การตอบกลับแบบใดที่สามารถคลายข้อสงสัยของลูกค้าได้" การจัดประเภทและความถี่ของข้อซักถาม รวมถึงขั้นตอนการแก้ไข จะช่วยให้หาแนวทางการลดจำนวนการติดต่อสอบถามที่มีประสิทธิภาพได้ง่ายขึ้น
ตัวอย่างเช่น หากคุณได้รับข้อซักถามเกี่ยวกับเนื้อหาเดิมซ้ำๆ บ่อยครั้ง การดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ FAQ ให้ดีขึ้น จะมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากมีข้อซักถามหลายประเภทมากเกินไป อาจมีคำถามที่พบบ่อย (มากเกินไปและอาจเข้าใจยาก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดระเบียบ FAQ เหล่านั้น ด้วยวิธีนี้ จำเป็นต้องเข้าใจแนวโน้มจากข้อมูลเนื้อหาข้อซักถามจริงและพิจารณามาตรการปรับปรุงที่เหมาะสมกับบริษัทของคุณ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีสร้างเว็บไซต์ FAQ ที่อ่านง่าย
โปรดคลิกที่นี่ 【วิธีสร้าง FAQ】อธิบายขั้นตอนและโครงสร้างเพื่อลดจำนวนข้อซักถาม
3 การนำระบบเพื่อช่วยลดปริมาณการติดต่อสอบถามมาใช้
จากผลการวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาข้อคำถามที่ได้รับน เราจะเลือกระบบที่จะช่วยลดจำนวนปริมาณการติดต่อสอบถาม หากคุณมีระบบใช้อยู่แล้ว คุณจำเป็นต้องระบุปัญหาว่าเหตุใดระบบนั้นจึงสามารถลดจำนวนการติดต่อสอบถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย (FAQ) แต่มีจำนวนผู้เข้าชมต่ำ อาจจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อจัดวางลิงก์บนเว็บไซต์ของคุณใหม่ และนำระบบ Visual IVR (ระบบตอบรับด้วยภาพ) มาใช้เพื่อชี้แนวทางให้ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม ก่อนที่จะพิจารณาติดตั้งระบบใหม่มาใช้ สิ่งสำคัญคือต้องระบุปัญหาที่มีอยู่ให้ชัดเจนและเลือกระบบที่เหมาะสมที่สุด
■ ภาพระบบ Visual IVR
แหล่งข้อมูล: เรียนรู้เพิ่มเติม TechMatrix "FastNavigation" (ผลิตภัณฑ์นี้มีให้บริการในประเทศญี่ปุ่น)
วิธีลดจำนวนข้อซักถามหรือการติดต่อสอบถาม
เพื่อที่จะลดจำนวนคำถามหรือการติดต่อสอบถามจากลูกค้า จำเป็นต้องใช้วิธีการผสมผสานกันหลายแนวทาง ลองมาดู 5 วิธีที่นิยมใช้กันมากที่สุด
< วิธีลดจำนวนข้อซักถามหรือการติดต่อสอบถาม>
- ปรับปรุงคู่มือการใช้งานและเอกสารคำแนะนำ
- เพิ่มเติมเนื้อหาบนเว็บไซต์
- อัปเดตเว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- นำระบบแชทบอทหรือวอยซ์บอทมาใช้
- ปรับปรุงรายการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการสอบถาม (Inquiry form)
ปรับปรุงคู่มือการใช้งานและเอกสารคำแนะนำ
การปรับปรุงคู่มือการใช้งานและเอกสารคำแนะนำสำหรับลูกค้าให้เข้าใจง่ายขึ้น จะช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งนำไปสู่การลดจำนวนการสอบถาม
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การสอบถามเพิ่มขึ้นคือการไม่ได้ให้ข้อมูลที่จำเป็นอย่างเพียงพอ การแสดงวิธีการใช้สินค้าและบริการ แผนค่าบริการ และวิธีการจัดการปัญหาอย่างชัดเจน การจะช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง อันดับแรกเราควรตรวจสอบว่าประเด็นที่มีการสอบถามบ่อยนั้นมีการระบุไว้ในคู่มือหรือเอกสารคำแนะนำปัจจุบันอย่างไร
เพิ่มเติมเนื้อหาบนเว็บไซต์
การเพิ่มเติมเนื้อหาบนเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์และบริการจะช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งนำไปสู่การลดจำนวนการสอบถาม หากอธิบายวิธีการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการบนเว็บไซต์ด้วยภาพประกอบหรือวิดีโอที่เข้าใจง่าย จะช่วยเพิ่มกรณีที่ลูกค้าสามารถแก้ไขข้อสงสัยได้โดยไม่ต้องสอบถาม
นอกจากนี้ การใช้สื่อที่เป็นของตนเอง (Owned Media) เพื่อเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับลูกค้าก็มีประสิทธิภาพเช่นกัน การใช้บทความคอลัมน์สามารถช่วยดึงดูดลูกค้าใหม่ที่กำลังพิจารณาซื้อสินค้าได้อีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จำเป็นต้องสร้างเนื้อหาที่เน้นประเด็นคำถามที่พบบ่อยในอดีต
อัปเดตเว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
การทบทวนเนื้อหาของเว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย หรือ FAQ อย่างสม่ำเสมอ และการให้ข้อมูลล่าสุดก็เป็นอีกวิธีที่นำไปสู่การลดจำนวนการสอบถามเข้ามาได้เช่นกัน หากคำถามที่พบบ่อยที่เผยแพร่ไม่ได้รับการอัปเดตเป็นเวลาหลายปี ลูกค้าจะมีแนวโน้มที่จะติดต่อสอบถามมากขึ้นเพราะมีความเป็นไปได้สูงที่ลูกค้าจะไม่สามารถแก้ไขข้อสงสัยเกี่ยวกับสินค้าและบริการล่าสุดได้ อันดับแรก ให้ตรวจสอบเนื้อหาของคำถามที่พบบ่อยและดูว่ามีการเผยแพร่คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ที่เหมาะสมเพื่อตอบคำถามเหล่านั้นหรือไม่ โดยมองจากมุมมองของลูกค้า
หากต้องการสร้างหรืออัปเดตคำถามที่พบบ่อย (FAQ) อย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำให้ใช้ระบบจัดการคลังความรู้คำถามที่พบบ่อย (FAQ) "FastAnswer" ของ TechMatrix ซึ่งสามารถเก็บข้อมูลความรู้จากเสียงของลูกค้า (Voice of Customer) ที่ได้รับจากศูนย์บริการลูกค้าเป็นความรู้ และสามารถสร้างและอัปเดต FAQ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอ้างอิงเนื้อหาและความถี่ของการสอบถาม จึงสามารถให้ข้อมูล FAQ ที่เหมาะสมที่สุดและตรงตามความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
นำระบบแชทบอท (Chatbot) หรือวอยซ์บอท (Voice Bot) มาใช้งาน
อีกวิธีหนึ่งในการลดจำนวนการสอบถามทางโทรศัพท์คือการตอบสนองคำถามทั่วไปโดยอัตโนมัติด้วยแชทบอท (Chatbot) หรือวอยซ์บอท (Voice bot) ประโยชน์ที่สำคัญคือสามารถลดจำนวนการสอบถามได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่จำเป็นต้องให้พนักงานรับสายตอบคำถามทั่วไปหรือคำถามพื้นฐานโดยตรง
หากคุณต้องการสร้างสถานการณ์ที่จำเป็นสำหรับการตั้งค่าแชทบอทเบื้องต้นได้อย่างง่ายดาย หรือต้องการให้บริการลูกค้าขั้นสูงที่เชื่อมต่อกับ AI หรือระบบหลัก แนะนำเครื่องมือแชทบอท "FastBot" ของ TechMatrix คุณสามารถสร้างและอัปเดตแชทบอทได้อย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องการเขียนโค้ด ทำให้ใช้งานได้ง่ายแม้ไม่มีความชำนาญในการสร้างระบบ
นอกจากนี้ ด้วยการใช้ประโยชน์จาก AI วอยซ์บอท "FastVoice" จะช่วยให้สามารถตอบสนองอัตโนมัติด้วยเสียงได้ตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน หากเชื่อมโยงกับระบบ CRM สำหรับศูนย์บริการลูกค้า "FastHelp" และชุดฟังก์ชัน Generative AI "FastGenie" นอกจากการสัมภาษณ์เบื้องต้นและการลดจำนวนการสอบถามแล้ว ยังช่วยลดเวลาในการประมวลผลหลังการสนทนา (ACW) ด้วย Generative AI ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้อย่างมาก
■ ภาพการลดเวลาทำงานด้วยการใช้ FastVoice, FastHelp และ FastGenie
สำหรับวิธีการสร้างแชทบอท โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: "[วิธีการสร้างแชทบอท] คำอธิบายประเด็นสำคัญในการสร้างและการนำระบบไปใช้"
ปรับปรุงรายการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการสอบถาม (Inquiry form)
ในกรณีที่มีการติดตั้งแบบฟอร์มการสอบถามบนเว็บไซต์ การปรับปรุงรายการกรอกข้อมูลก็เป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพเช่นกัน หากมีรายการกรอกข้อมูลมากเกินไปหรือมีคำถามที่ยากสำหรับลูกค้าในการตอบ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สะดวกและออกจากเว็บไซต์กลางคัน และทำให้จำนวนการสอบถามทางโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้
นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการสร้างระบบที่ช่วยให้สามารถแก้ไขข้อสงสัยของลูกค้าได้ภายในการติดต่อเพียงครั้งเดียว หลังจากตรวจสอบแล้วว่ามีการตั้งค่ารายการข้อมูลที่จำเป็นต่อการแก้ไขข้อสงสัยของลูกค้าอย่างครบถ้วนแล้ว ควรปรับปรุงแบบฟอร์มสอบถามให้สามารถลดการสื่อสารเพิ่มเติมในภายหลังให้น้อยที่สุด
ประโยชน์ของการลดการสอบถาม
การลดจำนวนการติดต่อสอบถามมีประโยชน์ทั้งต่อบริษัทและลูกค้า ต่อไปนี้จะอธิบายถึงประโยชน์ 3 ประการที่เกิดจากการลดจำนวนการสอบถาม
ลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
เมื่อปริมาณการติดต่อสอบถามลดลง จะสามารถลดปริมาณงานของพนักงานดูแลลูกค้าและค่าล่วงเวลาลงได้ ซึ่งนำไปสู่การลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร นอกจากนี้ การใช้เว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย (FAQ) และแชทบอทเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สามารถแก้ไขปัญหาการสอบถามทั่วไปได้ด้วยตนเองให้กับลูกค้า จะช่วยให้พนักงานดูแลลูกค้าสามารถมุ่งเน้นงานที่การบริการลูกค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดหวังว่าจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย
เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า
การลดจำนวนการสอบถามยังนำไปสู่การเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า เมื่อการสอบถามลดลง จะสามารถป้องกันสถานการณ์เช่น "ติดต่อศูนย์บริการลูกค้าทางโทรศัพท์ได้ยาก" หรือ "ใช้เวลานานในการโอนสายไปยังผู้รับผิดชอบหรือแผนกที่รับผิดชอบ" ด้วยเหตุนี้ ลูกค้าจึงสามารถแก้ไขข้อสงสัยหรือประเด็นที่ไม่แน่ใจได้อย่างราบรื่น ซึ่งนำไปสู่การให้ประสบการณ์ลูกค้า (ที่ดีขึ้น ผลลัพธ์คือ ความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น และความไว้วางใจในบริษัท ผลิตภัณฑ์ และบริการจะสูงขึ้น
การปรับปรุง CV (Conversion)
การลดจำนวนการสอบถามยังมีประโยชน์ในการคาดหวังการปรับปรุง CV (Conversion) ที่ดียิ่งขึ้น
CV หมายถึงการที่ลูกค้าทำการดำเนินการเฉพาะอย่างให้เสร็จสิ้น เช่น การซื้อสินค้า การขอเอกสาร หรือการลงทะเบียนสมาชิก ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกค้าจะมีข้อสงสัยก่อนการซื้อหรือการสมัครและอาจลังเลที่จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม หากข้อสงสัยต่างๆ ได้รับการแก้ไขทันทีและความกังวลจะถูกขจัดออกไป ก็จะลดอุปสรรคในการสมัครหรือการซื้อได้ ซึ่งส่งผลให้ CV ดีขึ้น
【กรณีศึกษาที่ประสบความสำเร็จ】ประสบความสำเร็จในการประหยัดแรงงานพนักงานประมาณ 158,000 ชั่วโมงด้วยการทำงานของแชทบอทร่วมกับพนักงาน | บริษัท ไดอิจิ ประกันชีวิต จำกัด
บริษัท ไดอิจิ ประกันชีวิต จำกัด ซึ่งให้บริการผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตและบริการที่เหมาะสมที่สุดตามความต้องการของสังคม ได้จัดตั้งสมาร์ทเซ็นเตอร์ (Smart center) เพื่อรองรับกับการสอบถามจากพนักงานขายกว่า 40,000 คนทั่วประเทศ ศูนย์นี้ให้บริการตอบข้อสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการทำสัญญาประกันผ่านแชทบอท แชทและพนักงาน รวมถึงทางโทรศัพท์ โดยนำ "FastHelp" ของ TechMatrix และระบบแชทบอทที่เชื่อมโยงกันมาใช้งานเป็นระบบหลัก
"FastHelp" ช่วยให้สามารถจัดการการสอบถามด้วยอินเทอร์เฟซเดียว และจัดการประวัติการสอบถามผ่านแชทบอท แชทกับพนักงาน และทางโทรศัพท์ไว้ในที่เดียวกัน นอกจากนี้ ด้วยการใช้ RPA (Robotic Process Automation) เพื่อทำงานธุรการทั่วไปให้เป็นอัตโนมัติ ทำให้ ณ เดือนธันวาคม ปี 2019 สามารถประหยัดแรงงานได้ประมาณ 94 คน หรือประมาณ 158,000 ชั่วโมง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีศึกษาของบริษัทประกันชีวิตไดอิจิ กรุณาคลิกที่นี่
Dai-ichi Life Insurance Co., Ltd. | Case Studies: Case Studies|FastSeries
ลดปริมาณการติดต่อสอบถามที่ศูนย์บริการลูกค้าด้วย FastSeries
การลดจำนวนการสอบถามในศูนย์ติดต่อนำมาซึ่งประโยชน์ เช่น การลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและการเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า คุณอาจพิจารณานำแชทบอท วอยซ์บอท และระบบความรู้ FAQ มาใช้เพื่อลดจำนวนการสอบถาม
TechMatrix นำเสนอ "FastSeries" ซึ่งมีระบบ CRM "FastHelp" เป็นศูนย์กลางที่สามารถจัดการช่องทางต่างๆ แบบรวมศูนย์เพื่อลดจำนวนการสอบถาม
ตัวอย่างเช่น ระบบความรู้ FAQ "FastAnswer" ของ TechMatrix เป็นระบบที่แม้แต่พนักงานรับสายหรือผู้รับผิดชอบที่ไม่คุ้นเคยกับการใช้งานก็สามารถใช้งานได้อย่างเป็นธรรมชาติ และใครก็สามารถสร้าง FAQ ที่หลากหลายทั้งภายในและภายนอกองค์กรได้อย่างง่ายดาย
■ ภาพการสร้าง FAQ ที่หลากหลายด้วย FastAnswer
นอกจากนี้ ระบบแชทบอท "FastBot" ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบแชทที่มีพนักงาน "FastText" ได้ด้วย สามารถตอบสนองการสอบถามทั่วไปด้วยแชทบอท และตอบสนองการสอบถามที่จำเป็นต้องดูแลเป็นรายบุคคลด้วยแชทกับพนักงาน ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างราบรื่น หากคุณกำลังกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนการสอบถาม หรือต้องการปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า โปรดพิจารณาใช้ "FastSeries"
ระบบคลังความรู้คำถามที่พบบ่อย (FAQ) ที่ช่วยในการสร้าง FAQ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานคือ "FastAnswer"
ระบบ CRM สำหรับศูนย์บริการลูกค้าที่ช่วยจัดการศูนย์บริการลูกค้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานคือ "FastHelp"
แชทบอทที่ช่วยให้การบริการลูกค้าเป็นอัตโนมัติบนเว็บไซต์หรือ LINE คือ "FastBot"
แชทที่มีพนักงานซึ่งทำงานร่วมกับแชทบอทได้อย่างราบรื่นคือ "FastText"
วอยซ์บอท AI ที่สามารถปรับแต่งเองได้ตามความต้องการของบริษัทคือ "FastVoice"
สรุป
- การเตรียมการที่จำเป็นสำหรับการลดจำนวนการติดต่อสอบถาม ประกอบด้วย "1 การกำหนดวัตถุประสงค์ของการลดการสอบถามให้ชัดเจน" "2 การวิเคราะห์ข้อมูลเนื้อหาของการสอบถาม" "3 การนำระบบมาใช้เพื่อลดการสอบถาม"
- สำหรับการลดจำนวนการสอบถาม จำเป็นต้องมีการดำเนินการต่างๆ เช่น "การปรับปรุงคู่มือการใช้งานและเอกสารคำแนะนำ" "การเพิ่มเติมเนื้อหาบนเว็บไซต์" "การอัปเดตเว็บไซต์คำถามที่พบบ่อย (FAQ)" "การนำระบบแชทบอทหรือวอยซ์บอทมาใช้" "การปรับปรุงรายการกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มการสอบถาม"
- ประโยชน์ของการลดการสอบถาม ได้แก่ "การลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน" "การเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้า" "การปรับปรุง CV (Conversion)"
อันดับบทความที่ได้รับความนิยม
-
ความรู้
2022/12/21
การเพิ่มค่า ES (Employee Satisfaction) ที่จำเป็นต่อองค์กร
-
ความรู้
2022/01/06
"CRM" "MA" และ "SFA" มีความแตกต่างกันอย่างไร? มาใช้จุดเด่นของ 3 สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ในการยกระดับ CX กันเถอะ!
-
ความรู้
2022/07/05
ทำงานที่บ้าน (WFH) ก็ปังได้! นำความรู้ที่มีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ด้วยระบบจัดการความรู้และระบบจัดการคำถามที่ถูกถามบ่อยๆ (FAQ) กันเถอะ
บทความแนะนำ
-
ความรู้
2025/03/20
AI Agent คืออะไร? แตกต่างจาก Generative AI และสนับสนุนธุรกิจได้อย่างไร
-
ความรู้
2025/03/07
การนำ Generative AI ไปใช้ในศูนย์บริการลูกค้า และอธิบายตัวอย่างการใช้งาน
-
ความรู้
2025/01/23
อะไรคือความแตกต่างระหว่างระบบ FAQ และแชทบอท? สิ่งที่ทั้งสองระบบมีเหมือนกันและวิธีเลือกใช้อย่างเหมาะสม
-
- โทรศัพท์:
- (66)-2-666-4853(วันจันทร์ - ศุกร์ 9: 00–17: 00 น.)
(เวลาประเทศไทย)
-
- แบบฟอร์ม/ อีเมล
- ส่งคำถามทั้งหมดที่นี่
-
- คำถามที่พบบ่อย